ขั้นตอนทาสีป้องกันสนิมแท่นขุดเจาะ Offshore ให้ได้มาตรฐานสากล

ความสำคัญของการป้องกันสนิมบนแท่นขุดเจาะ Offshore

แท่นขุดเจาะ Offshore ต้องทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง — ได้แก่ คลื่นแรง, น้ำและไอเค็ม, ลมแรง และความชื้นสูง ซึ่งเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาการกัดกร่อนของเหล็กและโลหะมากกว่าบนแผ่นดิน ทำให้แท่น Offshore ต้องการระบบการป้องกันสนิมที่ออกแบบและดำเนินการอย่างถูกต้องจึงจะเพิ่มอายุการใช้งาน ลดค่าใช้จ่ายระยะยาว และสร้างความปลอดภัยสูงสุดให้ทั้งคนและงาน

โซนบนแท่นขุดเจาะและการเลือกการปกป้อง

พื้นที่ของแท่นขุดเจาะจะแบ่งความเสี่ยงจากการกัดกร่อนหลัก 3 โซน

• Atmospheric Zone: โครงสร้างส่วนที่อยู่เหนือระดับน้ำ มีโอกาสรับไอเค็มและลมทะเล
• Splash Zone: โซนที่หน้าโครงสร้างปะทะคลื่นโดยตรง (±2 เมตรรอบพื้นน้ำ) มีความเสี่ยงกัดกร่อนรุนแรงที่สุด ต้องใช้สารเคลือบเฉพาะสูง
• Submerged Zone: ส่วนที่จมอยู่ใต้น้ำตลอด ต้องใช้ระบบป้องกันแบบต่อเนื่อง เช่น สารเคลือบใต้ผิวน้ำและ/หรือแอโนด

ขั้นตอนการทาสีป้องกันสนิมให้ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม

1. การเตรียมพื้นผิว (Surface Preparation)

• กำจัดสนิม, คราบเกลือ, ไขมัน, เศษสีเดิม: ใช้การพ่นทราย (abrasive blasting) ระดับมาตรฐาน Sa2.5 หรือ Sa3 ตาม NACE/ISO
• ตรวจวัดความสะอาดและความหยาบของผิว (surface profile) ให้อยู่ในเกณฑ์และตรงกับสเปกจากผู้ผลิตสี
• แนะนำ: บันทึกภาพถ่ายและผลการวัดทุกครั้งเพื่อควบคุมคุณภาพ

2. เลือกชนิดและระบบสารเคลือบ (Coating Selection)

• เลือกระบบเคลือบกันสนิมแบบ Multi-Layer 3 ชั้น เพื่อความทนทาน ได้แก่
  • Primer: Epoxy Zinc-rich หรือ Zinc Phosphate ช่วยยึดเกาะและ sacrifice พื้นผิวป้องกันสนิมได้ดี
  • Intermediate Coat: High-solid Epoxy เสริมชั้นกันไอน้ำ การกัดกร่อน
  • Topcoat: Polyurethane (PU) เน้นทน UV และความยืดหยุ่นต่อแรงกระแทก
• Splash Zone: ใช้ marine elastomeric coatings แบบพิเศษ ทนแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม

3. การทาสี (Application)

• ใช้วิธีที่เหมาะสม เช่น แปรง ลูกกลิ้ง หรือเครื่องพ่น (Airless Spray) ตามคู่มือผู้ผลิต
• ทาตามขั้นตอน แต่ละชั้นต้องบางและปล่อยให้แห้งก่อนทาซ้อน (multiple thin coats)
• ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และสภาพอากาศขณะทำงาน เช่น อุณหภูมิเหล็ก >3°C เหนือจุดน้ำค้าง, ความชื้นสัมพัทธ์ไม่เกิน 85%
• ทำบันทึก log การทาและเงื่อนไขแวดล้อมทุกชั้น

4. ตรวจสอบคุณภาพงานเคลือบ (Coating Inspection)

• ตรวจวัดความหนาแห้ง (Dry Film Thickness: DFT) แต่ละชั้นด้วยเครื่องมือมาตรฐาน
• ตรวจหารอยร้าว, ฟองอากาศ, ช่องว่างหรือพื้นที่ไม่ได้รับการเคลือบ (holiday/pinholes)
• รายงานและให้อินสเปคเตอร์ที่ได้รับการรับรอง (NACE/ICorr) ตรวจรับ

5. การบำรุงรักษา (Maintenance)

• ตรวจสอบสภาพฟิล์มสีและสนิมเป็นประจำ (periodic inspection)
• ซ่อมแซมเฉพาะจุดที่เสียหายทันที เพื่อป้องกันการลุกลาม โดยใช้ระบบสีย้อนขั้นตอนเดิม
• สรุปและจัดเก็บข้อมูลทุกครั้งเพื่อการวางแผน Maintenance ในอนาคต