5 ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการทาสีเรือ และวิธีแก้ไขก่อนสายเกินไป

รู้หรือไม่? การทาสีเรือผิดวิธีเสียหายยิ่งกว่าที่คิด

การทาสีเรือเหมือนจะง่าย แต่ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ สามารถนำไปสู่การสูญเสียมหาศาล ทั้งจากการซ่อมแซมซ้ำ สีหลุดลอก หรือแม้กระทั่งโครงสร้างเรือเสียหาย วันนี้เราจะมาชี้ 5 ข้อผิดพลาดยอดฮิตที่ผู้จัดซื้อและผู้ดูแลเรือมักมองข้าม พร้อมวิธีแก้ไขที่ใช้งานได้จริง

1. เลือกชนิดสีไม่เหมาะกับสภาพน้ำหรืออากาศ

• ใช้ "สีทาเรือ" ไม่ตรงกับประเภทเรือ (เหล็ก/ไม้/ไฟเบอร์)
• ไม่สนใจว่าสภาพน้ำเป็นน้ำจืด น้ำกร่อย หรือทะเล
• ละเลยระบบ "สีกันเพรียง (Antifouling paint)"

ผลเสีย: สีเสื่อมเร็ว ไม่ป้องกันเพรียงและสนิม เกิดความเสียหายเชิงโครงสร้าง

วิธีแก้:

• ตรวจสอบ spec sheet ของผู้ผลิตให้ละเอียด
• เลือกสีให้เหมาะกับวัสดุเรือ และเลือกสีกันเพรียงตรงกับแหล่งน้ำที่ใช้งาน
• ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือผู้แทนจำหน่ายโดยตรง

2. ไม่รองพื้นหรือเตรียมพื้นผิวก่อนทาสี

• ไม่ลอกสีเก่า/สนิมเดิมหรือฝุ่น คราบเกลือ
• ผิวเรือเปียกชื้นหรือมีร่องรอยแตกร้าว ไม่อุดโป๊ว

ผลเสีย: สีใหม่ยึดไม่อยู่, สีลอกหรือพองได้ง่าย, ส่งผลเสียกับภาพลักษณ์และค่าซ่อมบำรุงระยะยาว

วิธีแก้:

• ขัดสีเก่าและทำความสะอาดพื้นผิวด้วยน้ำจืดหรือน้ำยาเฉพาะทาง
• อุดโป๊วร่องหลุมและขัดผิวให้เรียบ
• ทารองพื้นชนิดที่เหมาะกับวัสดุเรือ ทุกครั้งตามคู่มือ

3. ทาสีในสภาพอากาศไม่เหมาะสม

• ทาสีตอนฝนตก หรือในวันที่มีความชื้นสูง ลมแรง หรือแดดจัดเกินไป

ผลเสีย: สีแห้งไม่สนิท มีฟองอากาศ รอยด่างหรือหลุดได้เร็ว

วิธีแก้:

• ทาสีในวันที่อากาศแห้งและอุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์แนะนำ (ดูฉลากสินค้า)
• หลีกเลี่ยงหน้าฝน หรือช่วงแดดร้อนจัด
• ควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศก่อนวางแผนการทาสี

4. กำหนดความหนาในการทาสีไม่เหมาะสม

• ทาบางเกินไปจนฟิล์มสีปกป้องไม่พอ
• ทาหนาเกินจนแห้งไม่หมด เกิดรอยแตกหรือพองในอนาคต

ผลเสีย: สีหลุดง่าย สั้นอายุการใช้งาน เสียเงินซ่อมบ่อย

วิธีแก้:

• ใช้เครื่องมือวัดความหนาสี เช่น Wet Film Thickness Gauge
• ตรวจสอบจำนวนชั้นที่ผู้ผลิตแนะนำ (ปกติ 100–120 ไมครอน/ชั้น)
• ทาสีซ้ำตามคู่มือ ไม่ข้ามขั้นตอน

5. ละเลยการดูแลหลังทาสีและทาซ้ำเมื่อสีสึกหรอ

• ไม่ตรวจสอบจุดอ่อนไหวใต้ท้องเรือหรือเชิงกราน
• ละเลยการทาสีเสริมตรงจุดสึกหรอ

ผลเสีย:

• สีเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว พาเรือไปค่าซ่อมหนักแบบไม่รู้ตัว

วิธีแก้:

• ตรวจสอบสภาพสีตลอดปี
• วางแผนทาซ้ำแต่เนิ่นๆ หรือเมื่อพบร่องรอยสีแตก ลอก บวม
• ทาซีลเสริมจุดอ่อนหรือขัดปรับผิวซ่อมเฉพาะจุด

สรุป: เรื่องเล็กๆ ที่ประหยัดเงินเรือนล้าน

• ทุกขั้นตอนก่อน-ระหว่าง-หลังทาสี สำคัญเท่าๆ กัน
• อย่ามองข้ามข้อผิดพลาดเหล่านี้ วางแผนทาสีและเลือกวัสดุอย่างมืออาชีพ

Checklist เครื่องมือทาสีเรือที่ขาดไม่ได้:

• แปรงลูกกลิ้ง/แปรงทาสีขนทนเคมี
• เครืองวัดความหนาฟิล์มสี (Thickness Gauge)
• น้ำยาลอกสนิม-ขัดล้าง
• ชุดป้องกัน (ถุงมือ, หน้ากาก, ชุดคลุม)
• คู่มือ/แผนงานผลิตภัณฑ์ผิวเรือเฉพาะ

การเลือกสีให้เหมาะสมกับเรือ

• ใช้ "สีรองพื้นเรือ" สำหรับยึดเกาะและป้องกันสนิม
• เลือก "สีกันเพรียง" ให้ตรงพื้นที่น้ำทะเล, น้ำกร่อย, น้ำจืด
• อ่านสเปคสี ดูรอบการทาซ้ำและระยะเวลากันเพรียงในแต่ละสูตร

คำแนะนำสุดท้าย: วางแผนงาน เตรียมผิว ทาอย่างถูกวิธี ดูแลหลังงาน จะได้สีเรือสวยสด ป้องกันได้ยาวนาน คุ้มทุกบาทแน่นอน!