กาวปูกระเบื้อง & กาวยาแนว เลือกแบบไหนให้เหมาะกับงาน?

ความแตกต่างระหว่างกาวปูกระเบื้อง และกาวยาแนว

งานปูกระเบื้องให้สวยงาม แข็งแรง และอยู่ได้นาน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ตัวกระเบื้องเท่านั้น แต่หัวใจสำคัญ คือ การเลือกใช้ 'กาวปูกระเบื้อง' และ 'กาวยาแนว' ให้เหมาะสมกับประเภทของงาน โดยเฉพาะร้านวัสดุก่อสร้างซึ่งต้องให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับช่างและเจ้าของบ้าน ด้านล่างนี้คือข้อมูลครบถ้วนสำหรับช่วยตัดสินใจเลือกสินค้าในร้านของคุณ

กาวปูกระเบื้อง (Tile Adhesive) คืออะไร?

กาวปูกระเบื้อง มีหน้าที่หลักสำหรับ “ติดตั้ง” กระเบื้องเข้ากับพื้นหรือผนังโดยตรง โดยส่วนผสมหลักมักได้แก่:

• ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์
• ผงลาเท็กซ์
• สารเคมีช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะ (เช่น สูตรนาโนพลาสเตอร์)

คุณสมบัติโดดเด่น

• ยึดเกาะแน่นและแห้งไว เหมาะกับทั้งผนังและพื้น
• ลดโอกาสกระเบื้องหลุดร่อนในระยะยาว
• ใช้ได้กับกระเบื้องหลายประเภท: เซรามิก, พอร์ซเลน, แกนิตโต้, หินอ่อน, หินแกรนิต
• สูตรพัฒนาใหม่ เช่น กาวปูกระเบื้องนาโน เพิ่มพลังยึดเกาะระดับไมโคร

ประโยชน์ของกาวปูกระเบื้อง

• ใช้งานง่าย ไม่ต้องผสมหลายขั้นตอนเหมือนปูนก่อ
• ได้ผลงานเรียบเนียน รวดเร็ว
• ลดการแตกร้าวร่อนของกระเบื้อง

ข้อควรรู้และข้อควรระวัง

• เลือกใช้กาวปูกระเบื้องแทนปูนก่อสร้างทั่วไปเสมอ
• หลีกเลี่ยงการใช้กับพื้นผิวที่ชื้นจัดถาวร (ต้องเลือกสูตรกันความชื้นเป็นพิเศษ)

กาวยาแนว (Tile Grout) คืออะไร?

กาวยาแนว ใช้สำหรับ “อุดช่องว่าง” ระหว่างแผ่นกระเบื้องหลังการปู เพื่อป้องกันฝุ่น น้ำ และสิ่งสกปรก ผ่านการเลือกใช้กาวยาแนวที่เหมาะสมจะช่วยเสริมความสวยงามและเพิ่มอายุการใช้งานของกระเบื้อง

คุณสมบัติสำคัญ

• ยืดหยุ่นสูง รองรับการหดขยายของพื้นผิว
• มีหลากหลายสีให้เลือก สวยงามเข้ากับกระเบื้อง
• ป้องกันความชื้น เชื้อรา และราดำได้ดี (เช่น กาวยาแนวกันเชื้อรา หรือสูตรนาโนพลาสเตอร์)
• บางสูตรทนแรงกระแทกและสารเคมีสูง (เช่น กาวยาแนวอีพ็อกซี่)

ประโยชน์ของกาวยาแนว

• เพิ่มความกลมกลืนและสวยงามของพื้นที่
• ป้องกันน้ำซึมและเชื้อราตามรอยต่อ
• รักษาสุขอนามัย โดยเฉพาะห้องน้ำหรือครัว

ข้อควรรู้และข้อควรระวัง

• ไม่ควรใช้กาวยาแนวกับงานติดตั้งโดยตรง
• ควรเลือกสูตรที่ป้องกันเชื้อราและราดำสำหรับพื้นที่ชื้น

วิธีเลือกกาวปูกระเบื้องและกาวยาแนวให้ตรงงาน

5 หลักเกณฑ์ สำหรับร้านวัสดุก่อสร้าง

1. ดูประเภทกระเบื้อง: พื้นหรือผนัง, ในบ้านหรือภายนอก, ห้องน้ำ/ครัว
2. เลือกสูตรเฉพาะ: ตัวอย่างเช่น นาโนพลาสเตอร์ หรือสูตรกันเชื้อรา
3. ดูมาตรฐานสินค้า: เลือกสินค้าที่มีเครื่องหมายรับรองคุณภาพ
4. ระบุปริมาณและขนาดบรรจุ ให้เหมาะกับลักษณะงาน (ซ่อมแซมหรือสร้างใหม่)
5. แนะนำคู่สีที่เข้ากับกระเบื้อง: ช่วยเพิ่มยอดขายในร้านด้วยการจัดเซ็ต "กาวปูกระเบื้อง + กาวยาแนว"

ตารางเปรียบเทียบ "กาวปูกระเบื้อง" กับ "กาวยาแนว"

คำแนะนำการตลาดสำหรับร้านวัสดุก่อสร้าง

• จัดอบรมความรู้ให้พนักงานเรื่องการแนะนำกาวให้เหมาะกับงาน
• ส่งเสริมการขายแบบ Cross-Sell (ขายกาวปูกระเบื้องพร้อมกาวยาแนว)
• ติดโปสเตอร์แสดงความแตกต่างของแต่ละผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น
• อัปเดตสูตรใหม่ๆ เช่น สูตรนาโนพลาสเตอร์และอีพ็อกซี่ สื่อสารจุดเด่นสู่ลูกค้าผ่านโซเชียลและหน้าร้าน

ข้อควรจำสำหรับร้านวัสดุก่อสร้าง

• อย่าใช้ปูนทั่วไปแทนกาวปูกระเบื้อง เพราะความสามารถในการยึดเกาะต่ำ
• เลือกกาวยาแนวสูตรป้องกันเชื้อราสำหรับพื้นที่เปียก
• มีสีให้เลือกหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ดีไซน์
• แนะนำสูตรพรีเมียมสำหรับงานที่เน้นความทนทาน เช่น ห้องครัวและโรงงานอาหาร