Skimcoat คืออะไร?
Skimcoat (สกิมโค้ท) คือวัสดุฉาบผิวเนียนในการตกแต่งหรือซ่อมแซมผนัง เพื่อเตรียมพื้นผิวให้พร้อมสำหรับการทาสีหรือปิดผิวอื่นๆ เหมาะกับทั้งงานผนังใหม่และซ่อมแซมผนังเก่า คุณสมบัติสำคัญคือ ให้ผิวเรียบไร้รอยต่อ ช่วยปิดรูพรุน รอยแตกลายงา และลดปัญหาสีหลุดร่อนในอนาคต
ประเภทของ Skimcoat
การเลือก Skimcoat ให้เหมาะกับงานเป็นหัวใจสำคัญสำหรับมืออาชีพ โดย Skimcoat แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ตามส่วนผสม:
1. Skimcoat ชนิดซีเมนต์ (Cement-Based Skimcoat)
ลักษณะ:
- เป็นผงซีเมนต์ผสมสารเคมีสำเร็จรูป บรรจุถุง ต้องผสมกับน้ำก่อนใช้งาน
- ความหนาที่แนะนำต่อครั้ง 0.3–2 มม.
ข้อดี:
- ราคาย่อมเยา เหมาะกับการฉาบพื้นที่กว้าง
- ขัดแต่งง่ายหลังแห้ง
- ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก
ข้อเสีย:
- มีฝุ่นหลังขัด ต้องทำความสะอาดดี
- รอแห้งนานกว่าชนิดอะคริลิก
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์:
- LANKO 110, LANKO 101, จระเข้ สกิมโค้ท 102, TOA 101 เดเคอร์พลาส
2. Skimcoat ชนิดอะคริลิก (Acrylic/Polymer Skimcoat)
ลักษณะ:
- เนื้อครีมสำเร็จรูป พร้อมใช้งาน บรรจุในถัง
- ฉาบได้หนาสูงสุด 4 มม. ต่อชั้น
ข้อดี:
- เนื้อเหนียวเกาะพื้นผิวดี ผงฝุ่นน้อย
- ฉาบซ้ำชั้นถัดไปได้เร็ว ประหยัดเวลา
- เหมาะกับงานรีโนเวต/ซ่อมเฉพาะจุด
ข้อเสีย:
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์:
- LANKO 102, LANKO 103, จระเข้ สกิมโค้ท สมูท
การเลือกใช้ Skimcoat สำหรับภายในและภายนอก
งานภายใน
- หากต้องการความเรียบเนียนพิเศษ: แนะนำแบบอะคริลิก เสร็จไว ไม่ต้องผสมให้ยุ่งยาก
- ถ้าพื้นที่กว้าง เน้นประหยัด: เลือกแบบซีเมนต์ ขัดแต่งและทำความสะอาดง่าย
งานภายนอก
- ต้องการความทนแดดฝน: ใช้ชนิดซีเมนต์คุณสมบัติสูง หรือแบบโพลิเมอร์ผสม สำหรับผนังคอนกรีต/อิฐนอกร่ม
- หากต้องอุดรอยแตก/ผิวหยาบ: เลือกสูตรผสมทราย หรือชนิดที่ผลิตมาเฉพาะงานหนักโดยตรง
Skimcoat เหมาะกับงานลักษณะไหน?
Skimcoat มีบทบาทสำคัญในงานดังต่อไปนี้:
- ปิดผิวเม็ดทรายให้ผนังฉาบนิ่ง เรียบเหมือนกระจก
- อุดรอยร้าวขนาดเล็กและรูพรุน รอยแตกลายงาที่ลึกไม่เกิน 0.3 มม.
- ซ่อมแซมผนังปูนเก่าให้ใหม่ เตรียมผิวก่อนทาสี
- ระดับผิวงานให้สวยงาม ด้วยความเนียนซ่อนรอยต่อวัสดุ
วิธีใช้ Skimcoat เบื้องต้น
ขั้นตอนใช้งาน Skimcoat แบบมืออาชีพ
- ตรวจสอบพื้นผิว: ให้แน่ใจว่าพื้นผิวสะอาด ไม่มีฝุ่น ไขมันหรือคราบมัน
- ผสมตามคู่มือ:
- แบบซีเมนต์: ผสมกับน้ำอัตราส่วนที่แนะนำ
- แบบอะคริลิก: เปิดฝาใช้งานทันที
- ฉาบ: ใช้เกรียงปาดบางๆ ไต่ระดับชั้นละไม่หนาเกินข้อกำหนด (0.3–2 มม. ซีเมนต์, 4 มม. อะคริลิก)
- รอแห้ง: แต่ละชั้นควรรอแห้งก่อนฉาบซ้ำ
- ขัดตกแต่ง: หลังแห้งสนิท ใช้ขัดกระดาษทรายให้เรียบ
คำแนะนำ: อ่านฉลากและคู่มือผลิตภัณฑ์นั้นๆ ทุกครั้ง ก่อนนำไปใช้งาน
ตัวอย่าง Skimcoat แบรนด์ยอดนิยมในไทย
- LANKO: 110 (ภายนอก), 101 (ซีเมนต์), 102–103 (อะคริลิก)
- จระเข้: สกิมโค้ท 102 (ซีเมนต์), สมูท (อะคริลิก), แซนด์เกเตอร์ (สำหรับผิวหยาบ)
- TOA: 101 เดเคอร์พลาส
เปรียบเทียบ Skimcoat กับ "ปูนฉาบ"
- Skimcoat คือ "วัสดุปิดผิวขั้นจบ" ให้ผิวเนียน ไร้รอยต่อ เหมาะกับงานสถาปัตย์ ต้องการความประณีต
- ปูนฉาบ ทั่วไป ใช้ขึ้นโครงผนัง สร้างสัน ทนทานแต่ผิวยังไม่เนียนเท่า Skimcoat
สรุปการเลือก Skimcoat
| ประเภท |
ภายใน |
ภายนอก |
จุดเด่น |
| Cement-Based |
✅ |
✅ |
ประหยัด ขัดง่าย เหมาะพื้นที่กว้าง |
| Acrylic/Polymer |
✅ |
รุ่นเฉพาะ |
ผิวเนียน ประหยัดเวลา เหมาะซ่อมจุด |
เลือกให้เหมาะกับหน้างาน งานเร็ว-ประหยัด-หรือเนียนพิเศษ Skimcoat ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์