ทำไมสีทาเหล็กจึงแห้งช้ากว่ามาตรฐาน?
เจ้าของโรงงานและผู้ควบคุมไซต์งานมักประสบปัญหา “สีทาเหล็กแห้งช้าผิดปกติ” โดยหลายครั้งช่างหรือผู้เกี่ยวข้องมักโทษว่าสีไม่ได้มาตรฐาน ทั้งที่จริง ๆ แล้ว สาเหตุหลักมักอยู่ที่ปัจจัยภายนอก เช่น ระบบงานหรือสภาพแวดล้อม ดังนั้นการวินิจฉัยปัญหาที่ถูกต้อง เป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาและวางแผนงานให้จบไว ไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง
สาเหตุหลักที่ทำให้สีทาเหล็กแห้งช้าผิดปกติ
1. อุณหภูมิและความชื้นไม่เหมาะสม
- อุณหภูมิต่ำ: ปฏิกิริยาการแห้งช้า โดยเฉพาะสีอุตสาหกรรม/สีน้ำมัน หากทาตอนอากาศเย็นจัด หรือพื้นที่อับลม สีจะระเหยตัวช้า
- ความชื้นสูง: การระเหยตัวทำละลายลดลง สีอาจ “ผิวแห้งในไม่แห้ง” หรือเหนียวติดกัน
2. ใช้ทินเนอร์ผิดชนิดหรือผิดอัตราส่วน
- ทินเนอร์ไม่ตรงสูตร: หากใช้ทินเนอร์ที่ผู้ผลิตไม่ได้แนะนำ เช่น น้ำมันสน น้ำมันเครื่อง หรือผสมข้ามยี่ห้อ อาจทำให้สีไม่เซ็ตตัว
- ผสมทินเนอร์มากเกิน/ทินเนอร์แห้งช้า: ยืดเวลาการแห้งออกไปหลายเท่า
3. ฟิล์มสีหนาเกิน/ทาซ้ำเร็ว
- ระบบสีเหล็กควรเว้นระยะระหว่างแต่ละชั้น (รองพื้น/ทับหน้า) หากทาซ้ำถี่หรือฟิล์มหนาเกิน ตัวทำละลายจะระเหยออกไม่หมดในชั้นใน
4. พื้นผิวเหล็กมีคราบน้ำมัน/ไขมัน/สนิม
- เหล็กใหม่จากโรงงานมักมีคราบน้ำมันเคลือบ ถ้าไม่ล้างออกก่อน สีจะยึดเกาะไม่ดี แห้งผิดปกติ
- เหล็กเก่า: ถ้าไม่ขัดสนิม-ลอกสีเสื่อม ฟิล์มสีใหม่จะเซ็ตตัวยาก
5. ระบบสีไม่ตรงกับพื้นเหล็ก (เช่น กัลวาไนซ์)
- หากใช้สีปกติทาเหล็กกัลวาไนซ์ โดยไม่ใช้รองพื้นที่เหมาะสม หรือสีเฉพาะ งานยึดเกาะ-แห้งตัวจะมีปัญหา
6. เลือกชนิดสีไม่เหมาะกับงาน/สภาพแวดล้อม
- สีน้ำมันแอลคิดทั่วไปแห้งช้ากว่าอะคริลิกหรืออีพ็อกซี หากใช้ในไซต์งานที่ต้องรีบจบ หรือห้องปิด อาจใช้เวลาหลายชั่วโมง-วัน
- ปัจจุบันมีสีสูตรแห้งไว/2IN1 สำหรับงานเร่ง หลีกเลี่ยงระบบสีหลายชั้น
7. ระบบระบายอากาศในไซต์งานไม่ดี
- อากาศอับ ตัวทำละลายสะสมในบรรยากาศ ลดอัตราการแห้งตัว
- พื้นที่กั้นผ้าใบหรือคลุมโดยไม่จัดการลม สีจะแห้งช้ากว่าค่ามาตรฐาน
8. วินิจฉัยผิดคิดว่าสีไม่ได้มาตรฐาน
- หลายครั้งปัญหามาจากระบบงาน/วิธีใช้ ไม่ใช่ตัวสินค้า เช่น ใช้ทินเนอร์ผิด ฟิล์มหนา ทาซ้ำถี่
วิธีวินิจฉัยปัญหาแบบมือโปร
1. ตรวจสอบ TDS หรือข้อมูลผลิตภัณฑ์
- เปรียบเทียบเวลาการแห้งที่ระบุ กับอุณหภูมิ/ความชื้นในไซต์งานจริง
- ขอข้อมูลจากผู้ผลิตเสมอ
2. ตรวจวิธีใช้ทินเนอร์และการผสม
- ใช้ทินเนอร์สูตรที่ระบุในคู่มือ
- ถามช่างว่าใช้ทินเนอร์หลากยี่ห้อหรือ “น้ำมันสน” แทนหรือไม่
3. สังเกตความหนาฟิล์ม/วิธีทา
- ใช้แปรง/ลูกกลิ้ง/พ่น? ทาเร็วหรือหนากว่าคู่มือหรือไม่?
- เว้นระยะระหว่างเที่ยวครอบคลุมตามคู่มือแค่ไหน
4. เตรียมพื้นผิวให้สะอาด
- เหล็กใหม่: ล้างคราบน้ำมัน/ไขมันด้วยทินเนอร์หรือดีเกรสเซอร์
- เหล็กเก่า: ขัดสนิม ลอกสีเก่าที่เสื่อมออก
5. ตรวจสภาพแวดล้อม
- เวลาและบรรยากาศในการทำงาน (กลางคืน, เช้ามืด, หน้าฝน, RH สูง)
- ไซต์งานปิด/คลุมผ้าใบ/กลางแจ้ง มีลมแรงหรืออับชื้น
วิธีแก้ไข-ป้องกันปัญหาแบบช่างมือโปร
- ปรับสภาพแวดล้อม
- เลือกเวลาทำงานอุณหภูมิ/ความชื้นเหมาะสม
- ใช้พัดลมหรือจัดให้ระบายอากาศดี ลดความอับ
- เลือกสีและระบบงานตรงกับงาน
- ใช้สีแห้งไว/2IN1 สำหรับงานเร่ง
- งานโครงสร้างใหญ่ อาจต้องใช้ระบบอุตสาหกรรม
- ใช้ทินเนอร์ถูกชนิดและสัดส่วน
- หลีกเลี่ยงผสมข้ามยี่ห้อหรือใช้น้ำมันสนแทนที่ไม่ได้ระบุ
- ควบคุมความหนาและระยะห่างระหว่างเที่ยว
- เตรียมพื้นผิวเหล็กให้สะอาด
- ขจัดคราบมัน/ไขมัน/สนิมก่อนทาทุกครั้ง
ตัวย่อที่ควรรู้
- TDS (Technical Data Sheet): ใบข้อมูลทางเทคนิคจากผู้ผลิต มีค่าวัด-วิธีใช้และมาตรฐานอุณหภูมิ ความชื้น
Checklist ก่อนโทษว่าสีไม่ได้มาตรฐาน
- ตรวจสอบอุณหภูมิ-ความชื้นในไซต์งาน
- เช็คการใช้ทินเนอร์และอัตราส่วนผสมจริง
- สังเกตความหนาฟิล์ม-จำนวนเที่ยวและเวลาห่างกัน
- ตรวจสภาพผิวเหล็ก/การเตรียมพื้นผิว
- ตรวจระบบสีและชนิดสีเหมาะสมกับลักษณะงาน
สรุป:
หลายปัญหาสีทาเหล็กแห้งช้า มาจากวิธีการ/ระบบงานและสภาพแวดล้อม ไม่ใช่เพราะสีไม่ได้มาตรฐาน การวิเคราะห์ปัญหาอย่างมืออาชีพจะช่วยให้งานเดินหน้าตามแผน ไม่มี delay และลดต้นทุนซ่อมแซมในอนาคต